วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เซต-คณิตศาสตร์

เซตและการเขียนเซต

เซต เป็นคำในคณิตศาสตร์ที่ไม่มีนิยามแต่ใช้บ่งบอกถึง “กลุ่ม” ของสิ่งต่างๆ ที่มีลักษณะเหมือนกัน เช่น

เซตของวันทั้งเจ็ด

เครื่องหมาย ∈ หมายถึง เป็นสมาชิก

เครื่องหมาย ∉ หมายถึง ไม่เป็นสมาชิก

A= {1,2,3}

1 ∈ A

2 ∈ A

3 ∈ A

4 ∉ A

การเขียนเซตสามารถเขียนได้ 2 แบบ คือ

1. เขียนแบบแจกแจงสมาชิก

A = {1,2,3,4,5,6,7}

B = {2,3,4,...,26,27,28}

2. เขียนแบบบอกเงื่อนไข

{x ϵ Ι^+│ -2≤x<3}



ชนิดของเซต

เซตจำกัด คือ เซตที่สามารถนับจำนวนสมาชิกได้

         A = {1,2,3,4,5}

         A มีจำนวนสมาชิก 5 ตัว

เซตอนันต์ คือ เซตที่ไม่สามารนับจำนวนของสมาชิกได้

         B = {1,2,3,…}

เซตว่าง (Empty Set) คือ เซตที่ไม่มีจำนวนสมาชิก เขียนแทนด้วย { },∅

เอกภพสัมพัทธ์ คือ ขอบเขตของเซตที่เราจะศึกษา เขียนแทนด้วย U

         U= {1,2,3,4,5} เราจะสนใจ 1 , 2 , 3 , 4 , 5

เซตที่ควรรู้จัก

I             = เซตของจำนวนเต็ม              = {…,-3,-2,-,1,0,1,2,3,…}

N=I^+    = เซตของจำนวนเต็มบวก       = {1,2,3,….}

I^-          = เซตของจำนวนเต็มลบ         = {-1,-2,-3,…}

P            = เซตของจำนวนเฉพาะบวก    = {2,3,5,7,11,…}

R            = เซตของจำนวนจริง

R^+        = เซตของจำนวนจริงบวก

R^-        = เซตของจำนวนจริงลบ



ความสัมพันธ์ระหว่างเซต

1. การเท่ากัน

         1) จำนวนสมาชิกมีค่าเท่ากัน

         2) สมาชิกแต่ละตัวเท่ากัน

เช่น {a,b,c} = {a,b,c}

{x│(x-2)(x+3)=0} = {2,-3}


2. การเทียบเท่ากัน คือ จำนวนสมาชิกมีค่าเท่ากัน

{a,b,c} = {1,2,3}


3. สับเซต

         1) สัญลักษณ์ ⊂ แทนคำว่า “เป็นสับเซตของ”เซต A เป็นสับเซตของ B ก็ต่อเมื่อสมาชิกทุกตัวของ 

A เป็นสมาชิกของ B

เช่น A = {1,3}

B = {1,2,3,4}

ดังนั้น A ⊂ B


         2) สัญลักษณ์ ⊄ แทนคำว่า “ไม่เป็นสับเซตของ”เซต A ไม่เป็นสับเซตของ B ก็ต่อเมื่อมีสมาชิก

ของ A อย่างน้อย 1 ตัวที่ไม่ใช่สมาชิกของ B

เช่น A = {1,2}

B = {2,3,4}

ดั้งนั้น A ⊄ B


ตัวอย่าง

  A = {1,2,3} สับเซตดังนี้ {1},{2},{3},{1,2},{1,3},{2,3},{1,2,3},{ }

*****เซตว่าง เป็นสับเซตของทุกๆเซต*****

*****สับเซตแท้คือสับเซตทุกตัวยกเว้นตัวของมันเอง*****


สมบัติของสับเซต

กำหนด A , B และC ให้เป็นเซตใด

1. ถ้า A เป็นเซตจำกัดและมีสมาชิก n ตัวแล้ว A มีสับเซตทั้งหมด 2^n สับเซต

2. ถ้า A ⊂ B และ A ≠ B แล้วจะเรียก A ว่าเป็นสับเซตแท้ของ B

3. A ⊂ A

4. ∅⊂ A

5. ถ้า A ⊂ B และ B ⊂ C แล้ว A ⊂ C

6. A ⊂ B และ B ⊂ A ก็ต่อเมื่อ A = B


4. เพาเวอร์เซต

เพาเวอร์เวอร์เซตของ A คือสับเซตของเซตทั้งหมด A ใช้สัญลักษณ์ P(A) แทนเพาเวอร์เซตของ

นั่นคือ P(A) = {x│x⊂A}

ตัวอย่าง

A = {1,2,3}

P(A) = {{1},{2},{3},{1,2},{1,3},{2,3},{1,2,3},{ }}

สมบัติของเพาเวอร์เซต


1. P(A) ≠ ∅ สำหรับทุก ๆ เซต A

2. ∅∈ P(A)

3. ∅⊂ P(A)

4. A ∈ P(A)

5. ถ้า A มีสมาชิก n ตัวแล้ว P(A) มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 2^n ตัว

6. A ⊂ B ก็ต่อเมื่อ P(A) ⊂ P(B)

7. P(A) ∩ P(B) = P(A ∩ B)

8. P(A) ∪ P(B) ⊂ P(A ∪ B)



แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์

แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์  เป็นแผนภาพที่เขียนแทนเซตโดยใช้รูปปิดใด ๆ  โดยทั่วไปจะใช้รูปสี่เหลี่ยม

ผืนผ้าแทนเอกภพสัมพัทธ์  และเขียนเซตอื่น ๆ  ลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า

เช่น  กำหนด  U = {1,2,3,4,5}
 
                      A = {1,2,3}
                      B = {2,3,5}

เขียนแทนด้วยแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ได้ดังนี้




การปฏิบัติการทางเซต

1. ยูเนียน (Union)

ยูเนียนของเซต A และ B คือ  เซตที่ประกอบไปด้วยสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกของเซต A หรือของเซต B 

หรือของทั้งสองเซต  ยูเนียนของเซต A และเซต B เขียนแทนด้วย A ∪ B

นั่นคือ A ∪ B = {x│x∈A หรือ x∈B} 

บริเวณที่แรงเงาในภาพเวนน์ – ออยเลอร์ต่อไปนี้แสดง A ∪ B ในรูปแบบต่างๆ




2. อินเตอร์เซคชั่น (Intersection)

อินเตอร์เซคชั่นของเซต A และเซต B คือ เซตที่ประกอบไปด้วยสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกของทั้งเซต A

และเซต B อินเตอร์เซคชั่นของเซต A และเซต B เขียนแทนด้วย A ∩ B

นั่นคือ A ∩ B = {x│x∈A และ x∈B}

บริเวณที่แรงเงาในภาพเวนน์ – ออยเลอร์ต่อไปนี้แสดง A ∩ B ในรูปแบบต่างๆ



3. คอมพลีเมนต์ (Complement)

ให้ A เป็นสับเซตของเอกภพสัมพัทธ์ U คอมพลีเมนต์ของ A คือ  เซตที่ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็น

สมาชิกของ U แต่ไม่เป็นสมาชิกของ A คอมพลีเมนต์ของ A เขียนแทนด้วย A^' 

นั้นคือ  A^' = {x│x∈ U และ x∉A}

บริเวณที่แรงเงาในภาพเวนน์ – ออยเลอร์ต่อไปนี้แสดง A ∩ B ในรูปแบบต่างๆ



4. ผลต่าง (Difference) 

ผลต่างระหว่างเซต A และเซต B คือ  เซตที่ประกอบไปด้วยสมาชิดของเซต A ซึ่งไม่เป็นสมาชิกของ

เซต B ผลต่างระหว่างเซต A และเซต B เขียนแทนด้วย A - B 

นั้นคือ  A - B = {x│x∈ A และ x∉B}

บริเวณที่แรงเงาในภาพเวนน์ – ออยเลอร์ต่อไปนี้แสดง A - B ในรูปแบบต่างๆ

                               

สมบัติบางประการเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางเซต
1. กฎการสลับที่

A ∪ B = B ∪ A

A ∩ B = B ∩ A
2. กฎการเปลี่ยนหมู่

(A ∪ B) ∪ C = A ∪ (B ∪ C)

(A ∩ B) ∩ C = A ∩ (B ∩ C) 
3. กฎการแจกแจง

A ∪ (B ∩ C) = (A ∪ B) ∩  (A ∪ C)

A ∩ (B ∪ C) = (A ∩ B) ∪ (A ∩ C)
4. กฎเอกลักษณ์

A ∪ ∅ = A A ∩ ∅ = ∅

A ∪ U = U A ∩ U = A
5. กฎการซ้ำ

A ∪ A = A A ∩ A = A
6. กฎของคอมพลีเมนต์

A ∪ A^' = U A ∩ A^' = ∅

∅^' = U            U^' = ∅

(A^' )^' = A A – B = A ∩ B^'
7. กฎของเดอร์มอร์กอง

(A∪B)^' =  A^'∩B^'

(A∩B)^' =  A^'∪B^'



หาจำนวนสมาชิกของเซต

สามารถหาได้ 2 วิธี
1. ใช้แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์
2. ใช้สูตร

กำหนดให้  เป็นเอกภพสัมพัทธ์ A , B  และ C เป็นเซตจำกัด  ซึ่งต่างก็เป็นสับเซตของเอกภาพสัมพัทธ์

แบบ 2 เซต 

n(A ∪ B) = n(A) + n(B) – n(A∩  B)

แบบ 3 เซต 

n(A ∪ B  ∪C) = n(A) + n(B) + n(C) – n(A ∩ B) – n(A ∩ C) – n(B ∩ C) + n(A ∩  B ∩ C)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น